สัญญาณ WiFi อันตรายที่มองไม่เห็น
สัญญาณWiFi อันตรายที่มองไม่เห็น (ดร.แพง ชินพงศ์)ปัจจุบันมีการใช้สัญญาณ WiFi อินเทอร์เน็ต กันอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่เด็กเล็กยันผู้สูงอายุ
แต่ใครจะรู้บ้างว่าสัญญาณเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก เพราะ
สมองและส่วนกะโหลกศีรษะของเด็กยังกำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโต Dr.Om Ghandhi แห่งมหา-
วิทยาลัยยูทาห์ กล่าวว่า เนื้อสมองของเด็กวัย 5-10 ขวบซึ่งยังอ่อนอยู่ จะถูกสัญญาณของคลื่น
WiFi ทะลุทะลวงได้มากกว่าสมองของผู้ใหญ่
http://pics.manager.co.th/Images/556000006306601.JPEG
ดังนั้น หากที่บ้านของเรามีสัญญาณ WiFi และคุณพ่อคุณแม่อนุญาตให้เด็ก ๆได้ใช้
คอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือแท็บเล็ต หรือเล่นเกมทางอินเทอร์เน็ต นั่นอาจต้องระวังให้
มากว่า เด็ก ๆ กำลังเสี่ยงกับการมีปัญหาสุขภาพที่เกิดจาก WiFi และหากคลื่นสัญญาณ
มีกำลังแรงมาก อาจส่งผลทำให้เด็กบางคนเกิดอาการดังนี้
1. ปวดศีรษะบ่อยๆ (ประมาณ 3-5 ครั้งต่อสัปดาห์)
2. มีอาการเวียนหัวและรู้สึกเหมือนอยากจะอาเจียน
3. มองเห็นเลือนรางและมีความผิดปกติทางการมองเห็น เช่น เห็นพื้นที่กำลังเดินอยู่
มีลักษณะเอียง หรือมีความรู้สึกเหมือนเดินลงเขา
4. มีความผิดปกติทางการได้ยิน เช่น ได้เสียงของคุณครูฟังดูแปลกๆมีเสียงสูง ต่ำ
ทั้ง ๆ ที่คุณครูยังคงพูดเสียงปกติเหมือนเดิม
5. มีปัญหาในเรื่องของความจำ
6.ไม่มีสมาธิเวลาเรียนหรือขาดความสนใจในบทเรียน
มีงานวิจัยที่กล่าวถึงผลของ Wi-Fi ต่อสุขภาพ พบว่า สัญญาณ Wi-Fi มีผลต่อทารก
ในครรภ์มารดา ซึ่งรายงานนี้ได้ตีพิมพ์ลงในวารสารวิชาการ ที่มีชื่อว่า the Australasian
Journal of Clinical Environmental Medicine
โดยรายงานนี้ได้ระบุว่า สัญญาณแม่เหล็กไฟฟ้าที่ปล่อยจากอุปกรณ์ที่มีสัญญาณ
Wi-Fi เป็นสาเหตุให้เกิดการจับตัวกันของธาตุโลหะในเซลล์สมอง ซึ่งการสะสมนี้จะทำ
ให้เกิดอาการออทิสติกอย่างค่อยเป็นค่อยไป
http://pics.manager.co.th/Images/556000006306602.JPEG
นอกจากนี้ งานวิจัยยังพบว่าสัญญาณ WiFi เป็นอันตรายกับเด็กเพราะสัญญาณ
ที่ส่งออกไปทำให้เซลล์ในร่างกายหยุดการทำงาน ทำให้ไม่สามารถหายใจได้สะดวก
และทำให้ดีเอนเอภายในร่างกายถูกทำลายและทำงานไม่เป็นปกติ หลังจากได้รับไป
เป็นเวลานาน และคลื่นเหล่านี้ถูกค้นพบว่าทำให้มีผลต่อเม็ดเลือดขาว ซึ่งอาจทำให้
เป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว
ในปัจจุบันโรงเรียนประถมเซนต์วินเซนต์ยูเฟรเซีย ใน Meaford ออนตาริโอ
ของแคนาดา ได้ห้ามไม่ให้มีระบบสัญญาณ Wi-Fi ในโรงเรียนระดับอนุบาลและประถมต้น
เช่นเดียวกับบางโรงเรียนอนุบาลในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ฝรั่งเศสและรัสเซีย
เนื่องจากมีผลการวิจัยทางการแพทย์ระบุว่า คลื่นความถี่ของระบบสัญญาณ WiFi
ที่มีความเข้มข้นนั้นอาจมีผลเสียต่อพัฒนาการและอาจทำให้เกิดเนื้องอกในสมอง
ของเด็กได้
แม้การมีคลื่นสัญญาณ WiFi ใช้สร้างประโยชน์ให้กับเราอย่างมากมาย ทั้งเรื่องของ
การติดต่อสื่อสาร การค้นคว้าข้อมูลเพื่อการศึกษา การทำธุรกิจการค้า ฯลฯ แต่แน่นอนว่า
ไม่มีอะไรที่มีแต่ประโยชน์และไม่มีโทษร่วมด้วย ดังนั้นจึงควรใช้มันอย่างฉลาด รู้จักควบคุม
การใช้ของตัวเอง เช่นการไม่ใช้นานเกินไปในแต่ละวัน หรือใช้เฉพาะที่จำเป็นต้องใช้เท่านั้น
ก็พอ ซึ่งนอกจากสัญญาณ WiFi แล้ว ยังรวมถึงการใช้ไมโครเวฟและโทรศัพท์มือถือด้วย
ที่มีผลเสียต่อร่างกายได้ ถ้าใช้อย่างไม่ระวังหรือมากเกินไป
ด้วยรักและห่วงใย ป้องกันไว้ดีกว่าแก้กันเถอะครับ ^^
ข้อมูลอ้างอิง http://www.earthcalm.com/lp-children-and-emfs/wi-fi-health-risks-and-children/
ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
โห...เพิ่งรู้นะครับนี่
แล้วที่บ้านผมนี่จะปลอดภัยมั้ยนี่ มีทุกจุดของบ้านเลย
{:5_352:} {:5_362:} เต็มห้องเลยเอาไงทีนี้ ใจน่ะที่บอกต่อสาระ ขอบคุณครับสำหรับข้อมูลดีดี คงต้องใส่หมวกกันน็อคทุกๆครั้งที่เปิด wifi หล่ะทีนี้ อันตรายอยู่รอบตัวเลยครับ {:5_360:} {:6_413:}เปิดทิ้งไว้ ทั้งวันทั้งคืนเลยโง่ตายเลยเรา ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะครับผม
ผมนั่งหน้า wifi ทุกวันเลยนะสิเนี่ย มิน่าละ ปวดหัวบ่อย {:5_396:} เป็นความรู้ดีครับ WIFI ถ้าไม่ได้ใช้ก้อปิดครับ ดีที่สุด {:5_400:} โอว้สาระดีมากๆ เลยค่ะ ที่บ้านมีตัวน้อยอยู่ ใช้ wifi รอบบ้านเลย..ต้องจัดโซนใหม่ซะแล้ว ขอบคุณมากครับ ระวังไว้บ้างก็ดี ถ้าไม่ได้ใช้ก็ปิด แต่อย่ากังวลจนเกินเหตุเดี๋ยวจะเครียดครับ{:1_100:}